5/28/11

Aaron Yan to release Japanese version of "下一個我"


The youngest member of Taiwanese boy-band Fahrenheit, Aaron Yan will be releasing a Japanese version of his solo EP "The Next Me" on the 15th of June. In this version it will include all the tracks from the Taiwanese version plus a Japanese version of "下一個我". A DVD footage from the Birthday Concert last year will also be included.


There will be 2 events held in Japan so all fans in Japan, be sure to participate. For more info, check out the official site.

Preorder this version at:

Written by: Administrator@Ckpop.blogspot.com
Source: ponycanyon.com, yesasia.com
Credit:ckpop.blogspot.com

5/21/11

ไปทำพาสปอร์ต

วันที่20 พฤษภาคม 2554 นัดเพื่อนไว้ว่าจะไปทำพาสปอร์ตตอน8.30น. แต่เพื่อนมาก่อนเวลา 8.25น. กิกิ โอเคเมื่อเราสองคนพร้อมก้อไปทำพาสปอร์ตกันเรย ใช้เวลาในการเดินทางจากโลตัสแถวบ้าน ไปถึงเซ็นทรัล บางนา ประมาณ25นาที ไปถึงแล้วเจ้าของบล็อกก้อนึกขึ้นมาได้ว่ายังไม่ได้กดเงินนี่นา (อันที่จิงมีเงินพอทำพาสปอร์ต แต่ไม่รู้ทำไมก้อไม่รู้ เป็นคนแบบถ้าไม่มีเงินติดกระเป๋าแล้วมันรู้สึกไม่สบายใจ) เลยคิดว่าก่อนไปทำพาสปอร์ตไปกดเอทีเอ็มก่อนดีกว่า เลยเดินไปBig C รอห้างเปิดประมาณ10นาที พอ9.00น. ห้างเปิดก้อเข้าไปหาตู้กด เหมือนเค้าจะรู้ว่าเรามากดเงิน แค่เข้ามาในห้างตู้เอทีเอ็มของธนาคารกรุงเทพก้อตั้งรออยู่ตรงประตูทางเข้าเลย ไม่ต้องไปเดินหาให้เมื่อย 55 กดเสร็จก้อเดินออกจากBig C เตรียมไปทำพาสปอร์ต เดินไปตามทางเรื่อยๆ สักพักก้อถึงสำนักงานหนังสือเดินทางชั่วคราวบางนา พอไปถึงก้อยื่นบัตรประชาชนให้เจ้าหน้าที่ ได้คิวที่183 หลังจากกรอกข้อมูลเรียบร้อยแล้วก้อนั่งรอประมาณ10นาที ก้อได้เข้าห้องไปทำพาสปอร์ต ก้อไปนั่งรอเรียกคิวอีก5นาที ได้ช่องที่32 รู้สึกว่ามันจะมี33ช่องมั้ง ไม่แน่ใจอ่ะ แต่ช่องที่ไปทำมันอยู่เกือบสุดท้ายแล้ว ก้อให้เจ้าหน้าที่สแกนนิ้วชี้ซ้ายขวาตามระเบียบ แล้วเจ้าหน้าที่ก้อตรวจเอกสารชื่อนามสกุล ถูกต้องหรือเปล่า แล้วก้อบอกให้เราไปถ่ายรูปได้ เราก้อไปยืนเช็คความเรียบร้อยหน้ากระจก เพราะต้องถ่ายรูปให้เห็นคิ้วสองข้างด้วย แต่ว่าผมเราเป็นผมหน้าม้ายาวเลยคิ้วมา เลยต้องปัดผมไปด้านข้าง รูปถ่ายมาเลย โอ๊ย รับไม่ได้เรย หุหุ พอได้รับเอกสารเสร็จ ก้อเดินไปชำระค่าธรรมเนียม1000บาท ก้อได้ใบรับหนังสือเดินทาง กับ ใบเสร็จมา เป็นอันเสร็จพิธี รอวันที่24 พฤษภาคม ก้อได้พาสปอร์ตแล้ว หุหุ รวมเวลาไปทำพาสปอร์ตประมาณ25นาทีเอง เร็วเว่อร์ อิอิ

5/6/11

เรื่องเล่าจากความทรงจำ

ดึกแล้วง่วงนอนจังเลย แต่ยังไม่อยากนอน เลยมานั่งเขียนบล็อก กลัวว่าถ้าไม่ได้เขียนแล้วจะลืม วันนี้ขอเขียนเกี่ยวกับเรื่องการเรียนที่ประเทศจีน คิดแล้วก็รู้สึกว่านักเรียนไทยโชคดีจังเลย การเรียนที่ประเทศไทยสบายมาก ไม่เหมือนเรียนที่จีน นักเรียนที่นั่นขยันเรียนมาก ตื่นมาเรียนกันตั้งแต่5.30น.เลย ขอย้ำว่าตื่นมาเรียนตั้งแต่ตีห้าครึ่ง โอ้ พระเจ้า จอร์จจจ อารัยจะขนาดนั้น ถ้าใครมาเรียนไม่ทันก็จะน่าสงสารมาก เพราะจะไม่ได้เข้าห้องเรียน ต้องยืนอยู่หน้าห้อง ซึ่งฤดูหนาวของจีนก้อหนาวได้ใจเลยทีเดียว ประมาณ5องศาหรือ-5องศานี่แหละ อันนี้เจ้าของบล็อกไม่แน่ใจเพราะฟังเหล่าซือเล่ามา ก้อแบบฟังไปเรื่อยๆจำได้มั่งไม่ได้มั่งตามเรื่องตามราว 555 หลังจากที่ตื่นมาเรียนทันแล้ว ก้อข้ามไปเลยละกัน อิอิ เพราะมันก้อเป็นช่วงเรียนธรรมดานี่แหละ หลังจากเรียนเสร็จแล้วที่ประเทศจีนเค้ามีพักเบรกเหมือนประเทศไทยนี่แหละ ประมาณ10-15นาที แต่ก่อนจะได้เบรก ก้อจะมีการเต้น (เหมือนวอร์ม) แต่เห็นท่าเต้นแล้วตลกมาก นึกว่าอุลตร้าแมนแปลงร่าง 55 ตลกจิงๆ หลังจากที่พักเบรกกันแล้ว ก้อเรียนไปเรื่อยๆ แล้วก้อพักกลางวันประเทศจีนเป็นประเทศที่พักกลางวันนานมาก มัธยมประมาณ2-2.30ชั่วโมง (อันนี้จิงๆน่าจะ2.30ชั่วโมงเป็นเวลาโดยประมาณค่ะ เพราะเจ้าของบล็อกจำไม่ได้แล้ว )แต่ถ้าเรียนประถมจะได้พักนานหน่อย3ชั่วโมง โอ้ววว ช่วงเวลาที่หลายคนรอคอย คือพักกลางวันนี่เอง ^^ กลับไปนอนหอได้เลยนะเนี่ย อิอิ ถ้าเป็นช่วงฤดูร้อนรู้สึกว่าจะได้พักกลางวันนานหน่อย อิจฉาพักกลางวันของประเทศจีนเค้าจิงๆ ได้พักนานมาก ที่ได้พักนานอาจจะเป็นเพราะวัฒนธรรมของจีนเค้าด้วยนะคะ แต่ก่อนจีนเค้าจะมีวัฒนธรรมนอนกลางวัน ไม่รู้ว่าเดี๋ยวนี้เค้ามีหรือเปล่า อิอิ อันนี้แอบคิดเองอะคะ แต่ว่าไปแล้วก้อไม่อิจฉาเค้าดีกว่าค่ะ เพราะว่ากว่าเค้าจะเลิกเรียนนี่ก้อประมาณสามทุ่มหรือสามทุ่มครึ่งนี่แหละคะ (อิอิ จำไม่ได้อีกแล้ว) แล้วประเทศเค้าก้อเรียนกันหนักเรียนจันทร์ถึงเสาร์ แถมวันอาทิตย์ยังต้องเรียนอีกครึ่งวันมั้ง เรียนหนักจิงแฮะ เหล่าซือเล่าให้ฟังว่าที่จีนเค้าจะเรียนจบหลักสูตรกันตั้งแต่ม.5แล้ว พอม.6ก้อจะเปนการทบทวนที่เรียนมาทั้งหมด เพื่อที่จะสอบเข้ามหาวิทยาลัย (ลืมบอกไปว่านักเรียนต่อห้องที่จีนมณฑลที่เหล่าซือเรียนมีร้อยกว่าคนต่อหนึ่งห้อง โอ้โห เยอะมากกกกก จะเรียนกันรู้เรื่องไหมเนี่ย แอบสงสัย ถ้าเป็นนักเรียนไทยสงสัยไม่เรียนกันหรอกแอบหลับแน่ๆ 55) แต่เหล่าซือเล่าให้ฟังว่าโดยมากแล้วจะมีนักเรียนกลับมาเรียนม.6ใหม่อีกครั้ง เพื่อที่จะสอบให้ได้มหาวิทยาลัยดีๆ ครึ่งนึงของนักเรียนทั้งห้อง ก้อประมาณห้าสิบคนเค้าจะกลับมาเรียนใหม่ โอ้แม่เจ้า เป็นเจ้าของบล็อกไม่กลับไปเรียนหรอก55 แล้วเหล่าซือยังเล่าให้ฟังอีกว่าหอพักของมหาวิทยาลัยดีกว่าหอพักตอนเรียนมัธยม หอของมหาวิทยาลัยจะพักกัน4คน/ห้อง (อันนี้ดีแล้วหรอค่ะ) แต่ถ้าหอที่โรงเรียนประมาณ10-12คนต่อห้อง (จำไม่ได้ว่าเหล่าซือบอกกี่คน แต่ไม่เกิน12คนต่อห้องอะ) วันนี้ก้อเขียนจบแหละ ง่วงนอนพอดีไปนอนดีฝ่า